ก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพสักกรมธรรม์ แน่นอนว่าเราคงต้องพิจารณาจากหลายบริษัทก่อนที่จะมั่นใจว่าประกันสุขภาพที่เลือก สามารถตอบโจทย์กับที่ต้องการอย่างแท้จริง หากถามว่าเปรียบเทียบประกันสุขภาพอย่างไร แน่นอนว่าเราคงต้องเลือกบริษัทที่สามารถดูแลสุขภาพเราได้เมื่อถึงเวลาเจ็บป่วยจริงๆ วันนี้ทีมงาน Rabbit Finance จึงได้รวบรวมข้อมูลกรมธรรม์ประกันสุขภาพจากบริษัทต่างๆ มาฝากกัน
เทียบกันให้เห็นๆ กับกรมธรรม์ประกันสุขภาพของแต่ละเจ้า (H2)
1.คุ้มธนกิจ 99 กับไทยประกันชีวิต
คุ้มธนกิจ 99 มีจุดเด่นคือ คุ้มครองผู้เอาประกันตลอดชีพ มีค่ารักษาพยาบาลให้ในกรณีเจ็บป่วย รวมถึงวงเงินคุ้มครองแบบเหมาจ่าย 1-5 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังคุ้มครองพิเศษกรณีล้างไต ค่าเคมีบำบัดและการทำรังสีบำบัด
2.ประกันโรคร้าย 3 ซ่าส์กับอยุธยาอลิอันซ์
คุ้มครอง 3 โรคคือ มะเร็ง หลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตันและกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน คุ้มครองผู้ซื้อประกันถึง 1,000,000 บาท ในกรณีเสียชีวิตสามารถรับเงินก้อนได้ 100 % เบี้ยประกันเพียง 2,669 บาทต่อปี ผู้เอาประกันมีอายุตั้งแต่ 20-50 ปี
3.เอ็กซ็ตร้า แคร์ พลัสกับเมืองไทยประกันชีวิต
จุดเด่นคือช่วยในเรื่องของค่ารักษาพยาบาลที่เกินสิทธิ์และค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่าย ให้วงเงินคุ้มครองเริ่มต้นที่ 400,000 บาท เบิกค่าห้องได้สูงสุดถึง 8,000 บาท เบี้ยประกันเริ่มต้นที่ 285-9,963 บาท ช่วงอายุที่สามารถทำประกันได้คือ18-70 ปี
4.HC เหมาจ่ายจากไทยสมุทร
ให้ความคุ้มครองสำหรับผู้ป่วยในแบบเหมาจ่าย คุ้มครองเริ่มต้นที่ 100,000-300,000 บาท คุ้มครองได้ยาวนานจนถึงอายุ 75 ปี นอกจากนี้ยังครอบคลุมในการรักษากรณีเจ็บป่วยและอุบัติเหตุ สำหรับผู้ที่ไม่ชอบคำนวณค่ารักษาพยาบาล คุ้มขนาดนี้ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าจะซื้อประกันสุขภาพที่ไหนดี
5.Ihealthy กับกรุงไทยแอกซ่า
คุ้มครองทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน ค่ารักษาสำหรับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร โรคมะเร็ง โรคไต ช่วงอายุที่สามารถทำประกันได้คือ อายุ 16-80 ปี คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายสูงสุดถึง 100 ล้านบาท ครอบคลุมรายการด้านสุขภาพ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี ค่าฉีดวัคซัน ค่ารักษาดวงตาและค่าทันตกรรม ที่พิเศษมากกว่านั้นคือ ความคุ้มครองในเรื่องของสถานพยาบาลทุกที่ทั่วโลก ซึ่งแตกต่างจากประกันสุขภาพจากแหล่งอื่นอย่างเห็นได้ชัด
6.เพอร์เฟค เซฟเวอร์ 20/20 กับธนชาติ
เบี้ยประกันที่ถูกเริ่มต้นที่ 52 บาท / วัน สามารถรับเงินคืนตลอดอายุสัญญาสูงสุดถึง 326,000 บาท ช่วงอายุที่สามารถใช้สิทธิซื้อประกันคือ อายุ 17-60 ปี ระยะเวลาในการเอาประกัยภายใน 20 ปี การจ่ายผลประโยชน์ในส่วนของความคุ้มครองชีวิต ไม่เกิน 150 % และรับเงินคืนไม่เกิน 300 % เมื่อครบสัญญา คุ้มครองในเรื่องของ ค่ายา ค่ารักษา ค่านอนโรงพยาบาล เป็นต้น
การเปรียบเทียบประกันสุขภาพของแต่ละบริษัทคงพอจะให้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับใครที่กำลังมองหาประกันสุขภาพในอนาคตให้กับตัวเอง เพื่อเพิ่มความอุ่นใจไม่ว่าจะเจ็บป่วยหนักแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวลกับค่าใช้จ่ายและความคุ้มครองอีกต่อไป